เมื่อวานนี้ 24 สิงหาคม 2561 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานแถลงข่าวผลการประชุม JC เศรษฐกิจไทย-จีน ครั้งที่ 6 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ว่าทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ยกระดับและกระชับความสัมพันธ์ของการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ โดยมอบคณะทำงานร่วมไทย-จีน ด้านการค้าและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไปหารือถึงการยกระดับความร่วมมือและกลไกที่มีอยู่ในปัจจุบันให้กว้างและครอบคลุมในประเด็นต่างๆ ของทุกหน่วยงานมากยิ่งขึ้น
สำหรับความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมนั้น ดร. พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมชี้แจงว่าจะมุ่งเน้นใน 5 เรื่องหลัก คือ
1. การส่งเสริมการพัฒนาทางเทคโนโลยี เช่น Internet of Things (IoT) Artificial Intelligence (AI) และการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยมีดิจิทัลพาร์คเป็นจุดตั้งต้นเพื่อพัฒนาทั้งในเชิงและเชิงกว้าง
2. การพัฒนาโครงข่ายพื้นฐาน เช่น submarine cable เพื่อเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างไทยและภูมิภาคเอเชีย
3. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งมุ่งเน้นการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของจีนและนานาประเทศ รวมถึงการส่งเสริมธุรกิจ digital startup ที่ประเทศจีนมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี
4. Cyber security มุ่งพัฒนาทั้งระบบและบุคลากร
5. E-Government มุ่งเน้นการพัฒนาด้าน Big Data ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนร่วมกับอีกหลายกระทรวงเพื่อพัฒนาการทำงานของหน่วยงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยทั้งนี้ จะได้จัดให้มีการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือของทั้งสองประเทศจำนวน 5 ฉบับ ในวันที่ 25 สิงหาคม 2561 ที่ Pattaya Exhibition and Convention Hall (PEACH) ประกอบด้วย
1. บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาสนามทดสอบและพันธมิตรเพื่อนำเทคโนโลยี 5G ไปใช้ในช่วงต้น
2. บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือพหุภาคีในการพัฒนา EEC & Startup Hub ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
3. บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาสถาบันไอโอทีและดิจิทัลพาร์คประเทศไทย
4. บันทึกข้อตกลงในการศึกษาร่วมกันในโครงการร่วมก่อสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทยและเขตปกครองพิเศษฮ่องกง
5. บันทึกข้อตกลงเพื่อการศึกษาร่วมกันในโครงการก่อสร้างศูนย์ข้อมูลอินเตอร์เน็ตในประเทศไทย